นอกจากหุ้น Growth Stock ที่นักลงทุนมักให้ความสนใจแล้ว ‘หุ้นพื้นฐานดี’ ก็ถือเป็นหุ้นที่นักลงทุนอยากมีติดพอร์ต เพราะราคาของหุ้นพื้นฐานดีมักจะไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงตามสภาวะตลาดมากนัก นักลงทุนจึงไม่ต้องกังวลกับภาวะเศรษฐกิจ หรือความผันผวนของตลาดหุ้นในระยะสั้นเลย แล้วลักษณะของหุ้นพื้นฐานที่ดีต้องดูปัจจัยอะไรบ้าง มาดู 5 วิธีในการหาหุ้นพื้นฐานดีกันเลย
5 วิธีเบสิกหาหุ้นพื้นฐานดี
มีจุดแข็งในธุรกิจ กิจการเติบโตต่อเนื่อง
ธุรกิจควรมีความได้เปรียบในด้านการแข่งขัน คือมีจุดแข็งหรือความสามารถในการแข่งขันกับคู่แข่ง เพราะเป็นปัจจัยสำคัญในการเติบโต หากบริษัทนั้นเป็นธุรกิจที่มีคู่แข่งขันน้อยราย หรือเป็นธุรกิจใหม่ ๆ ที่มีความได้เปรียบในการแข่งขัน ก็ถือเป็นบริษัทที่มีความได้เปรียบด้านการแข่งขันสูง นอกจากจุดแข็งแล้ว บริษัทก็ควรมียอดขายหรือรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง 3 - 5 ปี เพราะจะช่วยการันตีได้ว่าธุรกิจนี้ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อไปได้ และยังไม่ถึงจุดอิ่มตัว
มีกำไร ไม่ขาดทุนต่อเนื่อง
หุ้นที่มีพื้นฐานดี บริษัทควรมีกำไรอย่างสม่ำเสมอ ทั้งในกำไรขั้นต้นไปจนถึงกำไรสุทธิ และควรหลีกเลี่ยงบริษัทที่มีการขาดทุนอย่างต่อเนื่องหรือขาดทุนปีเว้นปี เพราะราคาจะปรับตัวขึ้นได้ยาก และอาจไม่มีเงินเหลือมาจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้น แต่ทั้งนี้อาจต้องดูข้อมูลเพิ่มเติมประกอบเสมอ เพราะบางบริษัทอาจขาดทุนจากการนำเงินไปลงทุนเพิ่ม หรือนำเงินไปใช้หนี้ ซึ่งอาจส่งผลดีต่อบริษัทในระยะยาว
นอกจากนี้ควรดูด้วยว่าบริษัทมีกำไรสะสมเพิ่มขึ้นไหม เพราะการมีกำไรสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ สามารถสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารต้นทุนการผลิต ประสิทธิภาพ และการจัดจำหน่ายที่ดี เมื่อกำไรสูงขึ้นก็ย่อมส่งผลดีต่อนักลงทุน เพาะเงินปันผลอาจเพิ่มขึ้น และยังนำไปสู่การขยายกิจการให้เติบโตต่อไปอีกด้วย
ไม่มีหนี้สินระยะยาว
การมีหนี้ถือเป็นเรื่องปกติในการทำธุรกิจ แต่การมีหนี้สินระยะยาวที่มากเกินไปคือสิ่งที่ต้องระวัง เพราะอาจมีปัญหาในเรื่องการชำระหนี้ หรือเกิดปัญหาต้นทุนดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น และหากวันใดขาดสภาพคล่องและไม่สามารถชำระหนี้ได้ก็อาจเกิดปัญหาขึ้นได้
บริหารจัดการต้นทุนได้ดี
การควบคุมต้นทุนในการดำเนินงานหรือบริหารจัดการต้นทุนถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะต้นทุนจะส่งผลโดยตรงต่อกำไร นักลงทุนสามารดูข้อมูลได้จากงบกำไรขาดทุน ในกรณีที่มียอดขายเพิ่มแม้ต้นทุนจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วยก็ยังพอรับไหว แต่ถ้ายอดขายลดลงสวนทางกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ก็อาจแสดงให้เห็นว่าบริษัทกำลังมีปัญหาในการดำเนินงาน นอกจากการบริหารจัดการที่ดีแล้ว ก็ควรดูด้วยว่าบริษัทมีสภาพคล่องหรือมีสินทรัพย์หมุนเวียนมากกว่าหนี้สินหมุนเวียนหรือไม่
มีความโปร่งใส มีธรรมาภิบาล
ควรเลือกลงทุนหุ้นกับบริษัทที่มีความโปร่งใส มีผู้บริหารที่ดำเนินงานอย่างเปิดเผย ซื่อตรง และไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ไม่ขยันให้ข่าวหรือเข้ามายุ่งกับการซื้อขายหุ้นเพื่อเก็งกำไรมากเกินไป รวมถึงบริษัทไม่ควรมีข่าวในเชิงลบบ่อย ๆ ด้วย
ที่มาข้อมูล
- https://www.investopedia.com/articles/fundamental/03/022603.asp
- https://www.investopedia.com/terms/f/fundamentals.asp
- SETinvestnow
- VLEARN
- สินค้าและบริการ
- เกี่ยวกับเรา
- ติดต่อเรา
- VCOURSE
- คอร์สเรียน
- โปรโมชั่น
- ความช่วยเหลือ
- For Education
- VCLASS
- VCLASS x VWORLD
- For Business
- VCOURSE for Business
- VCLASS for Business
- VCLASS x VWORLD
